เพียงแค่การรับประทานผักและผลไม้ในอัตราส่วนที่เหมาะสมก็อาจจะทำให้ความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตลดลงไปแล้ว โดยเฉพาะความเสี่ยงจากโรคทางเดินโลหิต แต่หากรับประทานมากเกินไป ก็ไม่ได้มีผลแต่อย่างใด
นักวิจัยจากจีนและสหรัฐอเมริกาชี้ว่าอัตราส่วนที่เรียกว่า "5 Daily Portion" หรือขนาดการรับประทานผักและผลไม้ที่เหมาะสม จะทำให้โอกาสเสียชีวิตลดลงไป โดยอัตราส่วนนี้เทียบเท่ากับผลไม้ขนาดเล็กเช่นกีวี 5-10 ลูก หรือผลไม้ขนาดกลาง 5 ชิ้น เช่น แอปเปิล หรือผลไม้ขนาดใหญ่ 1 ชิ้นหั่นยาวเช่น มะละกอ
งานวิจัยนี้ได้รับการเผยแพร่ในวารสารวิชาการ BMJ's Journal of Epidemiology and Community Health แล้ว
ก่อนหน้า เรามีความเชื่อที่ว่า การรับประทานผักและผลไม้ให้มากขึ้น มีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากโรคทางเดินโลหิตและโรคมะเร็งลดลง แต่อย่างไรก็ตาม ผลงานวิจัยก็ไม่ค่อยจะคงที่นัก
จนกระทั่งนักวิจัยจากจีนและสหรัฐอเมริกาได้ทำการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคผักและผลไม้กับความเสี่ยงของการเสียชีวิตจากทุกโรค โดยเฉพาะโรคหัวใจและมะเร็ง
ทีมวิจัยได้วิเคราะห์ผลงานวิจัย 16 ครั้งที่มีผู้เข้าร่วมการศึกษาทั้งหมด 833,234 คน และมีการเสียชีวิต 56,423 ราย การศึกษาแต่ละครั้งก็มีความแตกต่างกันในเรื่องของการออกแบบการทดลองและคุณภาพของตัวเลข จึงช่วยลดความเอนเอียงของการตีความลงไปด้วย และนักวิจัยก็พบว่า การบริโภคผักและผลไม้ในปริมาณที่มากพอมีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากปัจจัยต่างๆลดลงไปอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะโรคหัวใจ
ความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากทุกสาเหตุรวมกันนั้นลดลงไปถึงร้อยละ 5 จากการรับประทานผักและผลไม้เพิ่มเติม ในขณะที่ความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากโรคหัวใจลดลงไปถึงร้อยละ 4
อย่างไรก็ตาม นักวิจัยพบว่าหากบริโภคเกิน 5 หน่วยไปแล้ว ก็ไม่ได้เกิดผลใดๆเพิ่มเติมเลย
ในทางตรงข้าม การบริโภคในปริมาณมากก็ไม่ใช่เรื่องที่เหมาะสมนัก โดยนักวิจัยชี้ว่าเราควรจะบริโภคผักและผลไม้ในปริมาณที่เหมาะสม ควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย งดสูบบุหรี่ งบแอลกอฮอล์ ซึ่งน่าจะให้ผลดีด้วยเช่นกัน
นักวิจัยเผยว่า การศึกษาครั้งนี้น่าจะเป็นหลักฐานที่ชัดเจนได้ว่า การบริโภคผักและผลไม้จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากทุกสาเหตุได้ โดยเฉพาะจากโรคหัวใจ ผลการศึกษานี้แนะนำให้เพิ่มการบริโภคผักและผลไม้เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ยืนยาว
การทานน้ำผัก น้ำผลไม้สดสกัดในรูปแบบต่างๆ เป็นการเสริมภูมิต้านทานให้กับคนไข้มะเร็งได้เป็นอย่างดี ซึ่งสูตรต่างๆ เหล่านี้คนไข้สามารถทำเองได้ดังต่อไปนี้
สูตรที่ 1 ใช้แครอท 2 หัว บีทรูท 1 หัว โดยแต่งความหวานด้วยแอปเปิ้ลครึ่งลูก สูตรนี้จะอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน ควีเซติน เคมป์เฟอรอล มัยริเซตีน ลูติโอลีน
สูตรที่ 2 ใช้มะละกอสุกห่าม สูตรนี้อุดมด้วยเบต้าแคโรทีน และเอสไซม์ปาเปส ซึ่งช่วยสลายเนื้อเยื่อที่ตายแล้วให้หมดไป
สูตรที่ 3 น้ำส้มคั้น ให้ปอกเปลือก สูตรนี้จะอุดมไปด้วยวิตามินซีคอมเฟล็กซ์ คือ กรดแอสคอร์บิก รูติน เฮสเปอริดีน และไบโอฟลาโวนอยด์
สูตรที่ 4 น้ำตำลึง ใช้น้ำฝรั่งสัก 1/3 เพื่อเป็นน้ำสำหรับปั่นกับใบตำลึง สูตรนี้จะอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีนและวิตามินซี
สูตรที่ 5 น้ำถั่วงอก ใช้แคนตาลูปสัก 1/3 แก้ว เพื่อเป็นน้ำสำหรับปั่นกับถั่วงอกสด ปั่นเสร็จแล้วคั้นด้วยผ้าขาวบาง สูตรนี้จะอุดมไปด้วยซุปเปอร์ออกไวด์ดิสมิวเตส (SOD)
สูตรที่ 6 น้ำก้านผักรวม ใช้ก้านคะน้า กำหล่ำปลี ปวยเล้ง กวางตุ้ง และผักกาด แต่งหวานความด้วยแอปเปิ้ล หรือแคนตาลูป สูตรนี้จะอุดมไปด้วย Indoles, Polyphenol, Dithiothione, Isothiocyanate, Aranate และ Glutathione
เครดิต : วิชาการดอทคอม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น